1. Master Series เป็นสุดยอดผลงาน Masterpiece เครื่องเสียงรุ่นสูงสุด Top of The Line ระดับ Hi-End ราคาแพงสุดโต่งของ NAD หนึ่งในเครื่องเสียงที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากนักฟังเพลงระดับหูทองฝังเพชรทั่วโลก เพื่อต้องการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายระดับบนที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีรูปแบบการดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่สวยงาม โดดเด่น ในระดับ State of The Art ด้วยตัวเครื่องสีเงิน Silver ผสมผสานกับสีเทา Titanium ได้อย่างลงตัว ที่กวาดรางวัลทั้งทางด้านการออกแบบ และคุณภาพเสียงจากสถาบันระดับโลกมาแล้วอย่างมากมาย
NAD M3 เป็นอีกหนึ่งสุดยอด Fully Balance Dual Mono Integrated Amplifier รุ่นใหญ่สุด และคุณภาพดีที่สุดใน Master Series Collection ที่สืบทอดตำนานของ S-300 Integrated Amplifier ระดับไฮเอ็นด์ยอดเยี่ยม ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ด้วยการการพัฒนาคุณภาพเสียง และการดีไซน์ให้มีความสมบูรณ์เพียบพร้อมต่อการใช้งานให้มากขึ้นไปอีกระดับชั้น โดยปรัชญาที่เรียกว่า "Analog Sound, Digital Control" ซึ่งเป็นเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อให้เสียงเป็น Analog หรือธรรมชาติมากที่สุด ในขณะที่การควบคุมปรับแต่งต่างๆ ที่มีนั้นต้องทันสมัย ในแบบของ Digital มากที่สุดนั่นเอง ที่สำคัญภายในวงจร ยังออกแบบเพื่อความเป็นที่สุดด้วยระบบ Dual Mono แยกอิสระสองแชนแนล เหมือนมีแอมป์โมโน 2 เครื่องในตัวถังเดียว ใช้หม้อแปลงทอรอยดัลเกรดสูง การรบกวนต่ำแบบ Holmgren ภาคปรีแอมป์ออกแบบวงจรแบบ Discrete Low Noise High Impedance J-FET Class A ที่ให้ Dynamic Headroom สูงมาก มีค่า Signal to Noise Ratio สูงกว่า 100 dB เลยทีเดียว Volume ที่เลือกใช้เป็นแบบ Resister ที่มีค่าความผิดพลาดต่ำแค่ 1.0 % ซึ่งทำให้ค่าความต้านทาน และเสียงรบกวนต่ำมาก ๆ ภาคเพาเวอร์แอมป์ทำงานแบบ Dual Mono แยกภาคจ่ายไฟอิสระออกจากกัน หม้อแปลงสั่งทำพิเศษ ห่อหุ้มป้องกันการแผ่กระจายของภาคจ่ายไฟแบบ Power Drive ให้กำลังสำรองสูงลิ่ว สามารถต่อใช้งานแบบ Bi-Amp ได้ พร้อมมีครอสส์โอเวอร์ในตัว เลือกจุดตัดปล่อยลงซับวูฟเฟอร์ได้ 5 รูปแบบ คือ Full-Range, 40, 60, 80 และ 100 เฮิทซ์ ซึ่งทำให้ NAD M-3 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่ถึงพร้อมต่อการเล่นระบบเสียงไบแอมป์ 2.1 เต็มรูปแบบเครื่องแรกเลยทีเดียว ทีซึ่งสิ่งต่าง ๆ ข้างต้นนี้ มักจะมีติดตั้งอยู่ในเครื่องเล่นระดับ Hi-End ราคาแพงสุดโต่งเท่านั้น
หน้าจอ Display ของ NAD M3 จะแสดงผลการทำงานเป็นตัวอักษร/ตัวเลขสีฟ้าน้ำเงินสดใส(แบบเดียวกันกับเครื่องเสียงระดับ Hi-End ราคาแพงสุดโต่งของโลกอย่าง MARK LEVINSON, WADIA และ KRELL ซึ่งสวยงามมาก มองเห็นได้อย่างชัดเจน ภายในตัวเครื่องติดตั้งอุปกรณ์ ชิ้นส่วน วัสดุ และวงจรที่คัดสรรมาแต่ Audiophile Grade ระดับ Supreme Premium ดีที่สุดที่พึงจะหาได้ ให้พลังเสียงได้สูงสุดถึง 700 วัตต์ ที่ 2 โอห์ม(กำลังขับมาตรฐาน 200 วัตต์ x 2 แชนแนล ในแบบสเตอริโอที่ความเพี้ยนรวมต่ำสุดที่
0.004 % อัดแน่นด้วยกำลังสำรองที่ทำได้สูงถึง 300 วัตต์ที่ 8 โอห์ม, 520 วัตต์ ที่ 4 โอห์ม) สามารถต่อเชื่อมลำโพงได้ 2 คู่ และแหล่งเสียงหลัก ๆ ได้อย่างครบครันทั้ง Tuner, CD, Tape, Phono, Disc พร้อมทั้งช่อง Pre Out สำหรับต่อเชื่อมกับ Power Amplifier เพื่อทำหน้าที่เป็น Preamplifier ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร และหนักมาก กว้าง 44 สูง 14 ลึก 40 ซม. น้ำหนักประมาณ 25 กก.
NAD M3 ให้คุณภาพ และมิติเสียงที่สุดยอดเกินกว่าจะบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรได้ เพราะได้รับการยอมรับ และยกย่องจากนักฟังเพลงทั่วโลกให้เป็นหนึ่งใน Dual Mono Integrated Amplifier ที่ให้ Sound Stage ดีที่สุดในโลก ใช้ระบบไฟฟ้าบ้านเรา 220V ช่องเสียบสายไฟฟ้าด้านหลังตัวเครื่องยังเป็นแบบ IEC เพื่อให้สามารถเลือกใช้สายไฟฟ้า AC ที่มีคุณภาพสูงกว่าที่ติดมากับตัวเครื่องได้ ที่สำคัญยังมีช่องต่อเชื่อมสัญญานอินพุทแบบ Balance(XLR) อีกระดับคุณภาพเสียงที่เหนือกว่า RCA ทั่วไป พร้อมช่อง Pre Out 2 ชุด และช่อง LAN สำหรับต่อเชื่อมการใช้งานกับระบบ Custom Installation รวมถึงมีช่อง RS232 สำหรับอัพเกรดระบบได้ในอนาคต ไม่เพียงเท่านั้นยังติดตั้งสวิทซ์เปิด/ปิด On/Off บนด้านตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีอยู่แต่ในเครื่องเสียงตัวเครื่องระดับ Hi-End ราคาแพงสุดโต่งเท่านั้น ตัวเครื่องยังอยู่ในสภาพที่สวยสมบูรณ์ มี Remote Control ตรงรุ่น ให้พร้อม
จากราคากว่า 150,000 บาท ต้องการส่งมอบ NAD M3 สุดยอด Fully Balance Dual Mono Integrated Amplifier ให้กับนักฟังเพลงที่ชื่นชอบสไตล์เสียงหวาน เนียนนุ่ม แฝงไว้ด้วยความหนักแน่น รายละเอียดสมจริงเป็นธรรมชาติสไตล์ผู้ดีประเทศอังกฤษทุกกระเบียดนิ้ว ในราคาถูกเหลือเชื่อแบบหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เพียง 69,990 บาท หรือลดไปกว่า 50% เลยทีเดียว
พิเศษสุด ลดแบบจัดหนักเพิ่มเป็นครั้งสุดท้ายให้อีก 5,000 บาท จากที่ลดให้ก่อนหน้านี้ 10,000 บาท รวมเป็น 15,000 บาท
ราคาสุดท้ายเหลือเพียง 54,990 บาทเท่านั้น
ราคานี้ยังถูกกว่ามือสองทั้งที่ขายในประเทศ และต่างประเทศถึงกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว เข้าไปตรวจสอบดูได้ สมควรที่จะมีไว้เป็นเครื่องเสียงที่บ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ครอบครองที่ให้สุดยอดเสียงเพลงได้ด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่ Integrated Amplifier รุ่นใหม่ ๆ ในระดับค่าตัวกว่า 100,000 บาท ยังไม่อาจจะให้ได้เสมอเหมือน จึงไม่สมควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะโอกาสดีเช่นนี้ คงจะไม่มีเข้ามาอีกแล้ว
ติดต่อ 080-551-5444