ประกาศ : 70818
intamp Plinius Hautonga,Micromega M100
โพสต์ : 11:21 25/11/2024    
1.Plinius Hautonga สภาพดีมีกล่องคู่มือครบราคา 115,900.B
2.Micromega M100 สภาพดีมีกล่องคู่มือครบราคา 59,999.B
สนใจติดต่อ 0816623531

ผู้โพสต์ : ขอนแก่นไฮไฟ
อ่าน 225 | ตอบ 2
เพิ่มข้อความ : 1
เพิ่มข้อความเมื่อ : 11:22 25/11/2024
21INTEGRATED AMPLIFIER
Specifications
POWER
200 watts RMS per channel into 8 ohms.
Both channels driven from 20Hz to 20kHz at
less than 0.2% total harmonic distortion
FREQUENCY RESPONSE
20Hz to 20kHz +/–0.2dB
–3dB at 5Hz and –3dB at 70kHz
DISTORTION
Typically <0.05% THD at rated power
0.2% THD and IM worst case prior to clipping
CURRENT OUTPUT
40A short duration peak per channel
Fuse protected
SLEWING
50V/μs
HUM & NOISE
90dB below rated output 20Hz to 20kHz
unweighted
GAIN
Line inputs to speaker out: 40dB
Phono Input to Pre Out: 66dB on high gain,
60dB on low gain
INPUT IMPEDANCE
47k ohms all inputs
RATED PRE OUT LEVEL
1.5V RMS into 47k ohms or higher
PRE OUT SOURCE IMPEDANCE
Typically 1.5k ohms
PRE OUT MINIMUM RECOMMENDED LOAD
47k ohms
LINE OUT LEVEL
190mV at 200 ohms
POWER/CURRENT CONSUMPTION
600VA
0.4A (92W) Class AB Idle
DIMENSIONS
Height: 120mm (4.75")
Width: 450mm (17.75")
Depth: 400mm (15.75")
Weight: 14kg (30lbs

ผู้เพิ่มข้อความ : ขอนแก่นไฮไฟ
เพิ่มข้อความ : 2
เพิ่มข้อความเมื่อ : 11:24 25/11/2024
Micromega M100
ผลการลองฟัง

ส่วนตัวผู้เขียนได้ใช้เครื่องเล่นซีดี Micromega Stage 2 มาก่อนเพราะติดใจในความพริ้วและลื่นไหลแบบหาตัวจับยากในระดับราคาเดียวกัน เมื่อได้ทดลองฟัง M100 ก็พบว่าเครื่องเสียงจากดนแดนฝรั่งเศษนี้มีกลิ่นอายของบุคลิกเสียงที่คล้ายคลึงกันอยู่บ้างส่วน แม้จะเป็นผลิตภัณฑ์คนละรุ่นและถูกสร้างมาห่างกันเกินกว่าสิบปีแล้วก็ตาม อันแรกสิ่งที่สัมผัสได้คือความแนบเนียนในการนำเสนอรายละเอียดและความสะอาดของพื้นเสียงที่เหนือชั้นกว่าเครื่องในราคาต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด รายละเอียดของเสียงนั้นเหมือนกับถูกนำเสนอออกมาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมีลำดับขั้นและชั้นเชิงที่ปราณีตบรรจง รวมถึงพื้นเสียงที่มีความใสสะอาดไร้ม่านหมอกรบกวนทำให้รายละเอียดยิบย่อยเหล่านั้นมีความชัดเจนดีมาก ความสะอาดของเนื้อเสียงพาลให้ให้คิดถึงแอมป์ดิจิตอลชั้นดี แต่ M-100 จะเจือความอบอุ่นเอาไว้มากกว่า เนื้อเสียงมีความเนียนละเอียดไร้ความแข็งกระด้างอย่างสิ้นเชิง มิติเวทีเสียงมีความเป็นสามมิติตื้นลึกลดหลั่นกันไปไม่แบนเป็นหน้ากระดาน ช่องว่างช่องไฟระหว่างชิ้นดนตรีสามารถแยกแยะออกมาได้ดีและตรึงตำแหน่งของชิ้นดนตรีในเวทีเสียงได้นิ่งไม่สับสนตีรวนกันเอง [Test CD 5 / Opus 3 – PCM 16/44.1] ไม่ว่าจะเล่นในระดับความดังสูงหรือแผ่วเบาคุณสมบัติที่กล่าวมาก็ยังคงแสดงออกมาให้สัมผัสได้อย่างชัดเจน

โทนัลบาล้านซ์หรือสมดุลเสียงของ M100 มีความราบเรียบดีมากฟังแล้วไม่รู้สึกว่าหนักไปทางทุ้มหรือแหลมมากเกินไป ถือว่าค่อนข้างมีความเป็นกลางหรือมีโทนเสียงแบบมอร์นิเตอร์ดีทีเดียว สังเกตว่าเราจะสามารถจับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายสัญญาณ สายไฟเอซี หรืออุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันในระบบได้อย่างง่ายดาย แสดงให้เห็นว่า M100 ไม่ค่อยมีบุคลิกเสียงส่วนตัวมากเท่าไรนัก แต่ในคณะเดียวกันก็ยังคงรักษาความอิ่มแน่นของตัวเสียงทั้งทุ้มกลางแหลม รวมทั้งความต่อเนื่องลื่นไหลและความพริ้วไหวของปลายเสียงเอาไว้ได้อย่างน่าฟัง [Rain Forest Dream / Joji Hirota – PCM 16/44.1]

จุดเด่นอีกอย่างของ M100 คือการให้ช่วงไดนามิกคอนทราสต์หรือความดัง-เบาของเสียงที่หลากหลายได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงระดับเสียงได้อย่างชัดเจนไม่ว่าในช่วงดังหรือเบา ก่อให้เกิดความไพเราะเพราะพริ้งของบทเพลง โดยเฉพาะเสียงของนักร้องที่ออดอ้อนเจือความหวานละเมียด ส่งผลให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับเสียงดนตรีได้เป็นอย่างดี [The Look of Love / Grace Mahya – FLAC 16/44.1] กับบางอัลบั้มสามารถเก็บรายละเอียดของเสียงแผ่วเบาต่าง ๆ ได้หมดจดอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน [AMANDA / Amanda McBroom – PCM 16/44.1] จุดนี้ค่อนข้างโดดเด่นกว่าแอมป์หลาย ๆ ตัวที่เคยได้ฟังมา

ในแง่ของกำลังขับนั้น M100 สามารถขับลำโพงอย่าง Canton Vento 830.2 ออกมาได้เป็นอย่างดี แทบไม่ต่างกับการใช้ชุดปรี-เพาเวอร์ แม้ลำโพง Vento 830.2 ค่อนข้างกินวัตต์พอสมควร แต่ M100 ก็ยังสามารถรีดประสิทธิภาพของลำโพงออกมาได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเกินคาดสำหรับอินทิเกรตแอมป์ มีกำลังสำรองที่ดีเวลาเสียงโหมขึ้นดังพร้อม ๆ กันอย่างเพลงซิมโฟนีออเครสตร้า [Malcolm Arnold, London Philharmonic Orchestra / Arnold: Overtures – FLAC 16/44.1] ก็ไม่รู้สึกว่ามีอาอารป้อแป้หรืออ่อนแรงแต่อย่างใด ให้ชิ้นดนตรีหลุดลอยออกมาจากตู้ลำโพงได้ดีและตริ่งตำแหน่งได้นิ่งสนิท ปราศจากความอั้นตื้อแม้เล่นในระดับความดังสูง (เมื่อเทียบกับชุดปรี-เพาเวอร์จะให้ความโอ่อ่าของเวทีเสียงและโฟกัสรวมทั้งย่านความถี่ต่ำ ๆ ที่ดีกว่า M100 เล็กน้อย) เมื่อลองจับคู่กับลำโพงความไวต่ำอย่าง NHT 1.5 นั้นขับได้อย่างสบาย ๆ ให้เสียงหลุดตู้และเบสมาเป็นลูก ๆ เลยทีเดียว (อาจจะด้วย NHT 1.5 มีความต้านทานที่ไม่ซับซ้อนเท่าไรนัก)

สำหรับคนที่ใช้ M100 แนะนำว่าให้จับคู่กับลำโพงความไวสูงสักนิดดูจะเหมาะสมกันที่สุด แต่หากใช้ลำโพงตั้งพื้นหรือลำโพงที่มีโหลดซับซ้อนกว่านี้การขยับไปเล่นรุ่น M150 ที่ให้กำลังขับสูงและมีกำลังสำรองดีกว่าก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน เสียดาย M100 ให้ภาคปรีเอ้าท์มาเฉพาะแบบบาล้านซ์เลยไม่ได้มีโอกาสทดสอบร่วมกับเพาเวอร์แอป์ NAD 216THX ดู แต่เชื่อว่าสามารถนำมาใช้เป็นปรีแอมป์ชั้นดีได้แน่นอน
ภาคดิจิตอลอินพุตคุณภาพสูง

การทดลองฟังเสียงจากช่องดิจิตอลอินพุตของ M100 ตลอดช่วงการทดสอบไม่ส่อแสดงอาการแห้งแล้งหรือเกร็งแข็งของเสียงออกมาให้เห็นเลย แสดงให้เห็นว่าวงจร CPLD จัดการกับสัญญาณดิจิตอลเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ความละเอียดระดับไหนก็สามารถขุดคุ้ยเอารายละเอียดเสียงทั้งหมดของต้นฉบับออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยปราศจากความเพี้ยนส่วนเกิน ภาค DAC ในตัว M100 นั้นมีคุณภาพดีมากให้โทนเสียงราบเรียบเป็นกลาง มีความสงัดของพิ้นเสียงที่ดี เนื้อเสียงอิ่มแน่นแต่ไม่อวบหนาจนขาดรายละเอียด ให้รายละเอียดหยุมหยิมได้อย่างเป็นธรรมชาติไม่เน้นเด่นออกมาเกินหน้าเกินตา เจือความอบอุ่นนุ่มนวลของเสียงติดปลายนวมมาเล็ก ๆ ทำให้รู้สึกฟังสบายและไม่ล้าหู ที่สำคัญให้ความอิ่มแน่นมีน้ำหนักของฐานเสียงและย่านเสียงต่ำได้ดี แนวเสียงแบบนี้น่าจะเป็นที่ถูกหูคนฟังส่วนใหญ่ค่อนข้างตอบสนองแนวเพลงได้หลากหลาย

ส่วนในส่วนการฟังไฟลเพลงไฮ-เรส (โดยเฉพาะไฟล์ DSD ) ผ่านช่อง USB หรือ Ethernet นั้นก็แสดงประสิทธิภาพของไดนามิก ความเนียนสะอาด และรายะเอียดยิบย่อยที่เป็นธรรมชาติของไฟล์ DSD ออกมาได้เป็นอย่างดี ผู้เขียนใช้สาย USB กับสาย LAN เกรดทั่ว ๆ ไปก็ยังสัมผัสได้ นี่ถ้าได้สายออดิโอเกรดคงจะเห็นอะไรอีกเยอะ [Soft Lights & Sweet Music / Gerry Mulligan, Scott Hamilton – DSD64], [The Eagles / Hotel California – DSD64]

ทดลองนำไปใช้ชมภาพยนตร์ผ่านการเชื่อมต่อทางช่องออพติคอลอินพุต ปรากฏว่าได้อรรถรสดีมาก แม้จะเป็นแค่เสียง PCM มิกซ์ดาว์นสองแชนแนล แต่การถ่ายถอดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อยของเอ็ฟเฟกต์ต่าง ๆ อย่างมีชั้นเชิงรวมถึงการถ่ายทอดน้ำเสียงในบทสนทนาของตัวละครต่าง ๆ ได้อย่างเข้าถึงในอารมณ์นั้น หาฟังได้ยากเหลือเกินจากแอมป์เอวีรีซีฟเวอร์ทั่ว ๆ ไปซึ่งส่วนใหญ่มักจะเน้นไปที่ความคมชัดของสนามเสียงและความหนักแน่นเร้าใจ แค่นี้ก็ทำให้การชมภาพยนตร์ได้รสชาดและเพลิดเพลินดีไม่ใช่น้อยเลย (โดยเฉพาะหนังแนวดราม่าหรือซีรียส์ทั้งหลาย)
ภาคเฮดโฟนแอมป์ระดับไฮเอ็นด์

ปกติแล้วผู้เขียนไม่ค่อยให้ความสนใจกับช่องหูฟังที่ติดมากับอินทิเกรตแอมป์เท่าไรนัก เพราะโดยส่วนมากคุณภาพแค่พอฟังได้ซะเป็นส่วนมาก แต่ได้หลังจากได้ลองภาคหูฟังของ M-100 แล้วยอมรับว่าอึ้งไม่ไช่น้อยเพราะคุณภาพมันราวกับแอมป์หูฟังตั้งโตะชั้นดีจริง ๆ แสดงว่าทาง Micromega ต้องพิถีพิถันกับวงจรภาคหูฟังมากพอควร คุณภาพเสียงนั้นถอดแบบมาจากตัวอินทิเกรตแอมป์แทบทั้งหมด ทั้งความสะอาดเนียนละเมียดของตัวเสียง ความกลมเกลี้ยงกระชับแน่นมีน้ำหนัก แยกมิติเลเยอร์ของดนตรีได้เด็ดขาด และมีพื้นเสียงที่เงียบสงัดเอามาก ๆ ผู้เขียนปรับชดเชยความดังขึ้นไปอีก 6 dB ทดลองกับหูฟังแบบฟูลไซส์และแบบอินเอียร์ก็ไม่ได้ยินเสียงรบกวนเล็ดรอดออกมาให้ได้ยินเลยแม้แต่นิดเดียว มีพละกำลังที่สามารถขับหูฟังได้คุณภาพเต็มร้อยเปอร์เซนต์ เชื่อว่าคุณภาพจากช่องหูฟังของ M-100 นั้นไม่เป็นรองแอมป์หูฟังแบบตั้งโต๊ะระดับต่ำแสนสักกี่มากน้อย

และหากต้องการอัพเกรดภาคหูฟังของ M-100 ให้เหนือชั้นขึ้นไปอีก ทาง Micromega ก็มีจำหน่ายออพชั่นเสริมเป็นฟังก์ชั่น Binaural Listening ที่สร้างมิติของหูฟังให้เสมือนกับการรับฟังจากลำโพงบ้านจริง ๆ (รายละเอียดสอบถามได้ทางผู้จัดจำหน่าย)
สรุป

ไม่บ่อยนักที่จะได้เจอเครื่องเสียงประเภท All-in-one ซึ่งให้ประสิทธิภาพของแต่ละฟังก์ชั่นนั้นดุจเดียวกับเครื่องแบบแยกชิ้นชั้นดี ในงบประมาณราวสองแสนบาทอาจจะดูสูงแต่หากคำนวณคร่าว ๆ ว่าท่านจะได้อินทิเกรตแอมป์พร้อม DAC แบบไฮ-เรสที่รองรับไฟล์ความละเอียดสูงได้ทุกระดับ รวมทั้งเน็ตเวิร์คเพลเยอร์ แถมด้วยแอมป์หูฟังระดับไฮเอ็นด์ในตัวด้วยละก็ การใช้เงินไปซื้อแบบแยกชิ้นเพื่อให้ได้คุณภาพใกล้เคียงกันดูจะใช้งบสูงกว่าพอควร เพราะอย่าลืมเผื่อสำหรับค่าสายสัญญานต่าง ๆ ด้วย อีกทั้งประหยัดพื้นที่ในการจัดวาง เหมาะสำหรับท่านที่ชอบความเรียบง่ายสะดวกสบายแต่ให้คุณภาพเสียงระดับไฮเอ็นด์ รวมถึงดีไซน์ที่กลมกลืนกับการตกแต่งบ้านได้ จับกับลำโพงคุณภาพดีสักคู่เท่านี้ความสุขก็อยู่แค่ปลายนิ้วแล้ว
อุปกรณ์ร่วมทดสอบ

แหล่งโปรแกรม: เครื่องเล่นซีดี Cayin SC 100 CD, แอมป์พกพา Chord Mojo, เครื่องเล่นไฟล์พกพา iBasso DX80, iPad Mini, PC (NAS)
แอมป์: อินทิเกรตแอมป์ NAD C368, เพาเวอร์แอมป์ NAD 216THX
ลำโพง: Canton Vento 830.2, NHT 1.5
สายเชื่อมต่อ: สายดิจิตอล USB Furutech Formula 2, สายสัญญาณอนาล็อก Tchernov Special XS, สายสัญญาณอนาล็อกTaralabs TL-101, สายไฟเอซี Shunyata Python VX, สายไฟเอซี MIT-Z-Cord, สายลำโพงSupra Ply 3.4
อุปกรณ์เสริม: ปลั๊กผนัง PS Audio Power Port Premiere (Audiophile Grade), ปลั๊กกรองไฟ Clef Power Bridge 8 (เปลี่ยนปลั๊กเป็น Wattgate 381), ตัวกรองไฟ X-filter, ตัวกรองน้อยส์ Audio Prism Quite Line mkIII, ตัวกรองน้อยส์ Audio Quest Jitter Bug, ผลึกควอตซ์ Acoustic Revive QR-8, ขาตั้งลำโพง Atacama HMS 1, ชั้นวางเครื่องเสียง Audio Arts

รายละเอียดเชิงเทคนิค

ขนาด : กว้าง : 430 mm ลึก : 350 mm สูง (รวมสไปค์) : 56 mm
น้ำหนัก : 9 kg
บริโภคพลังงาน : 140W
กำลังขับ : 2 x 100W ที่ 8Ohms, 2 x 200W ที่ 4Ohms
อัตราส่วนเสียงต่อสัญญาณรบกวน (S/N Ratio): 106 dB(A) Balanced analog input : 103 dB(A) Unbalanced analog input : 100 dB(A) Phono MM input : Higher than 75 dB(A)
ความต้านทานขาออก : @250Hz under 8 Ohms 15mΩ
แดมปิ้งแฟ็คเตอร์ : > 500
ค่าความเพี้ยนรวม : THD, 8 Ohms, 63 Hz : under 0,001% THD, 8 Ohms, 1 kHz : under 0,005% THD, 8 Ohms, 10 kHz : under 0,05% THD, 4 Ohms, 63 Hz : under 0,001% THD, 4 Ohms, 1 kHz : under 0,01% THD, 4 Ohms, 10 kHz : under 0,07%
การรบกวนข้ามแชนแนล (Crosstalk) : 1kHz under 96dB, 10kHz under 80dB
ความไวขาเข้า : Phono MM, 47 kOhms 12 mVRMS Phono MC, 110 Ohms 1,2 mVRMS Analogue : 1,4 VRMS Balanced : 1,7 VRMS

ผู้เพิ่มข้อความ : ขอนแก่นไฮไฟ
เพิ่มข้อความ